ถึงปี พ.ศ. 2297 มีพระนครานุรักษ์ ครองเมืองศรีโคตรบูรณ์ มีความเห็นว่าเมืองมิได้ตั้งอยู่ที่ปากห้วยหินบูรณ์แล้ว จึงได้เปลี่ยนนามเมืองใหม่ว่า เมืองมรุกขนคร เพราะถือว่าสร้างขึ้นในดงไม้รวก นามเมืองศรีโคตรบูรณ์ จึงได้เปลี่ยนไปตั้งแต่ครั้งนั้น
ปี พ.ศ. 2330 ย้ายเมืองมาตั้งทางฝั่งขวาแม่น้ำโขงที่ปากห้วยบังฮวก บรรจบกับแม่น้ำโขง (ปัจจุบันอยู่ระหว่างบ้านดอนนางหงส์ท่า ตำบลดอนนางหงส์ อำเภอธาตุพนม เลยลงไปถึงบ้านธาตุน้อยศรีบุญเรือง ตำบลพระกลางทุ่ง อำเภอธาตุพนม) เมืองรุกขนคร เมื่อย้ายมาตั้งที่ปากห้วยบังฮวก โดยประมาณ 20 ปี น้ำได้กัดเซาะตลิ่งพังลงมามาก จึงได้ย้ายเมืองมาตั้งที่บ้านหนองจันทร์ (ห่างจากตัวเมืองนครพนมปัจจุบันไปทางทิศใต้ประมาณ 4 กิโลเมตร) ตั้งชื่อเมืองใหม่ว่า นครบุรีราชธานี
ปี พ.ศ. 2337 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนนามเมืองเสียใหม่ว่า เมืองนครพนม ขึ้นตรงต่อกรุงเทพฯ การที่พระราชทานนามว่า เมืองนครพนม สันนิษฐานได้ว่าอาจจะเนื่องด้วยแต่เดิมเมืองนี้เป็นเมืองลูกหลวงมาก่อน เป็นเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ จึงให้ใช้คำว่า นคร หรืออีกนัยหนึ่งคำว่า นคร นี้ อาจรักษาชื่อเมืองเดิมคือเมืองนครบุรีราชธานีไว้ ส่วนคำว่า พนม อาจจะเนื่องด้วยจังหวัดนี้มีองค์พระธาตุพนมประดิษฐานอยู่ หรืออาจจะเนื่องจากเดิมมีอาณาเขตกินไปถึงดินแดนฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง คือบริเวณเมืองท่าแขก ซึ่งมีภูเขาสลับซับซ้อนมากมายไปถึงดินแดนของประเทศเวียดนาม จึงใช้คำว่า พนม เพราะแปลว่า ภูเขา
จังหวัดนครพนม มีองค์พระธาตุพนมเจดีย์อันศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองมาแต่โบราณกาล เป็นศูนย์รวมศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทั่วไปทั้งชาวไทยและชาวลาว มีงานเฉลิมฉลององค์พระธาตุพนมในระหว่างวันเพ็ญเดือนสามของทุกปี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น